Methyl Ethyl Ketone, Xylene, Triethylene Glycol สารเคมีสำคัญในอุตสาหกรรมพลาสติก
Methyl Ethyl Ketone, Xylene, Triethylene Glycol สารเคมีสำคัญในอุตสาหกรรมพลาสติก
คุณสมบัติของ Methyl Ethyl Ketone, Xylene, Triethylene Glycol ในกระบวนการผลิตพลาสติก
Methyl Ethyl Ketone, Xylene และ Triethylene Glycol คือเคมีภัณฑ์ที่เป็นส่วนประกอบสำคัญของอุตสาหกรรมการผลิตพลาสติกที่มีความสำคัญในชีวิตของเรา ปฏิเสธไม่ได้ว่าการใช้ชีวิตประจำวันของมนุษย์เราทุกวันนี้ มีความเกี่ยวข้องกับพลาสติกมากมาย เช่น ส่วนประกอบของเครื่องใช้ไฟฟ้า เฟอร์นิเจอร์ต่างๆ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์, อุปกรณ์ตกแต่งบ้าน, ชิ้นส่วนรถยนต์หรือเครื่องใช้สำนักงาน เป็นต้น
ทำความรู้จักกับ Methyl Ethyl Ketone, Xylene และ Triethylene Glycol
- Methyl Ethyl Ketone (เมทิลเอทิลคีโตน) หรือ MEK และมีชื่อเรียกอีกอย่างว่า Butanone (บิวทาโนน) หรือ 2-Butanone เป็นคีโตนคือมีกลุ่มคาร์บอนิลอยู่ในโครงสร้างของโมเลกุล MEK สามารถละลายได้ในแอลกอฮอล์, น้ำและตัวทำละลายอินทรีย์อื่นๆ จึงนิยมนำมาใช้เป็นตัวทำละลายในอุตสาหกรรมพลาสติก มีสูตรทางเคมีคือ C4H8O หรือ CH3CH3COCH2CH3 มีจุดเดือด 175.4°F (79.64°C) มวลโมลาร์ 72.11 กรัม/โมล และความหนาแน่นโมเลกุล 0.8049 กรัม/มิลลิลิตร ลักษณะเป็นของเหลวไม่มีสี ไวไฟ ระเหยง่าย มีกลิ่นฉุนและหวาน
- Xylene (ไซลีน) คือสารประกอบอินทรีย์เคมีที่รู้จักกันอีกชื่อว่า Dimethylbenzene, Methyl toluene หรือ Xylol เป็นตัวทำละลายในอุตสาหกรรมพลาสติก อีกทั้งไซลีนถือเป็นหนึ่งในสารเคมีอันดับต้นๆ ที่การนำใช้ประโยชน์มากมายทั้งในสถานะบริสุทธิ์และในสารประกอบ เพื่อใช้ในหลายอุตสาหกรรมโดยเฉพาะในอุตสาหกรรมการผลิตพลาสติก
- Triethylene glycol (ไตรเอทิลีนไกลคอล) หรือ TEG เป็นของเหลวไม่ระเหย ไม่มีสี หนืด ไม่มีกลิ่น มีสูตรทางเคมีคือ C6H14O4 หรือ HOCH2CH2CH2O2CH2OH มีคุณสมบัติในการดูดความชื้นและความสามารถในการลดความชื้นของของเหลวได้ดี เป็นสมาชิกลำดับที่สามในกลุ่มไดไฮดรอกซีแอลกอฮอล์ สามารถนำมาใช้เป็นพลาสติไซเซอร์สำหรับไวนิลโพลีเมอร์
สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
Methyl Ethyl Ketone, Xylene และ Triethylene Glycol มีความสำคัญต่ออุตสาหกรรมพลาสติกอย่างไร?
ขนาดของตลาดพลาสติกทั่วโลกมีมูลค่า 609.01 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2565 และคาดว่าจะเติบโตที่อัตราการเติบโตต่อปี (CAGR) ที่ 4.0% ตั้งแต่ปี 2566 ถึง 2573 สืบเนื่องมาจากการบริโภคพลาสติกที่เพิ่มขึ้น ทั้งจากอุตสาหกรรมก่อสร้าง, อุตสาหกรรมยานยนต์ เครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ โดยอุตสาหกรรมเหล่านี้กำลังลดการใช้โลหะที่มีต้นทุนสูงและน้ำหนักมาก แล้วหันมาใช้พลาสติกทดแทน เพราะนอกจากจะช่วยประหยัดต้นทุนได้แล้ว น้ำหนักที่เบาจะช่วยลดการใช้เชื้อเพลิงและลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนได้ นอกจากนั้นก็ยังมีปัจจัยที่ทำให้ภาพรวมของตลาดพลาสติกเพิ่มขึ้นก็คือ การเติบโตของอุตสาหกรรมการก่อสร้างในตลาดเกิดใหม่ เช่น บราซิล จีน อินเดียและเม็กซิโก จึงทำให้เกิดการกระตุ้นความต้องการพลาสติกมากขึ้น นั่นเอง
ขอบคุณภาพจาก www.grandviewresearch.com
จากข้อมูลตามภาพจะเห็นได้ว่าสัดส่วนของการผลิตพลาสติกแต่ละประเภท ไม่ว่าจะเป็นพลาสติก PE, PP, PU, PVC หรือ PET ที่มีความต้องการสูงขึ้นในทุกๆ ปี ล้วนมี Methyl Ethyl Ketone, Xylene และ Triethylene Glycol เป็นสารประกอบในการผลิตพลาสติกเหล่านี้ทั้งนั้น เหตุเพราะพลาสติกดังกล่าวสามารถนำมาผลิตสิ่งของมากมายที่ใช้ในชีวิตประจำวันของมนุษย์ เช่น ฉนวน, ท่อ, สายเคเบิ้ล, พื้น, หน้าต่าง, ถังเก็บ และสิ่งทอต่างๆ ด้วยคุณสมบัติของพลาสติกที่มีสีสันให้เลือกออกแบบเพื่อความสวยงามได้หลากหลายมากกว่าโลหะหรือไม้ อีกทั้งพลาสติกยังความถ่วงจำเพาะน้อยกว่าโลหะถึง 85% เมื่อใช้ในอุตสาหกรรมยานยนต์และการก่อสร้าง จึงช่วยลดน้ำหนักได้ประมาณ 80% และประหยัดต้นทุน 30 – 50% ในส่วนประกอบแต่ละชิ้น
ในแง่ของรายได้ Polyethylene มีส่วนแบ่งการตลาดที่ใหญ่ที่สุดกว่า 25.28% ในปี 2565 (ที่มา: https://www.grandviewresearch.com/industry-analysis/global-plastics-market) โดยส่วนใหญ่จะใช้ในภาคบรรจุภัณฑ์ ขวด ถุงพลาสติก และฟิล์มพลาสติก ซึ่งการใช้งานต่างๆ ขึ้นอยู่กับน้ำหนักโมเลกุล โดยโพลีเมอร์น้ำหนักโมเลกุลต่ำของ PE จะนำไปใช้ในน้ำมันหล่อลื่น โพลีเมอร์น้ำหนักโมเลกุลปานกลางจะถูกใช้เป็นขี้ผึ้งที่ผสมกับพาราฟินได้ และโพลีเมอร์ที่มีน้ำหนักโมเลกุลสูงมักใช้ในอุตสาหกรรมพลาสติก โดยมี Methyl Ethyl Ketone, Xylene และ Triethylene Glycol เป็นสารประกอบ
ในอุตสาหกรรมพลาสติก งานฉีดขึ้นรูปมีส่วนแบ่งตลาดมากที่สุดกว่า 43.38% ในปี 2565 (ที่มา: https://www.grandviewresearch.com/industry-analysis/global-plastics-market) ซึ่งเป็นกระบวนการที่ใช้กันทั่วไปในการผลิตชิ้นส่วนพลาสติกตามสั่ง โดยทั่วไปจะใช้ในการผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ ภาชนะบรรจุ และอุปกรณ์ทางการแพทย์ และอื่นๆ นอกจากนั้น การรีดพลาสติกก็เป็นการแปรรูปวัสดุเทอร์โมพลาสติกเป็นฟิล์มและแผ่น ส่วนใหญ่จะใช้สำหรับ PVC เช่นเดียวกับเทอร์โมพลาสติกดัดแปลงอื่นๆ ซึ่งในกระบวนการผลิตอาจมีการปรับปรุงคุณภาพของพลาสติก เช่น การยืดตัว ความต้านทานแรงดึงและความโปร่งใส โดยการใช้ Triethylene Glycol เข้าไปในกระบวนการผลิตพลาสติก PVC
นอกจากนี้ Xylene ที่ใช้ในการผลิตพลาสติก PP และ PET ถือเป็นส่วนสำคัญของอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์ เพราะมีบทบาทสำคัญในการนำไปผลิตเพื่อใช้เป็นบรรจุภัณฑ์อาหาร ยา และเครื่องดื่มอีกด้วย หรือสินค้าอุปโภคบริโภคต่างๆ เช่น เครื่องใช้ไฟฟ้า ของเล่น และเครื่องแต่งกาย ซึ่งมีแนวในการเติบโตของตลาดเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ตามข้อมูลที่เราได้กล่าวมา
สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
Methyl Ethyl Ketone, Xylene และ Triethylene Glycol มีหน้าที่อะไรบ้างสำหรับการผลิตพลาสติก
- ใช้เป็นตัวทำละลาย : โดยไซลีนเป็นตัวทำละลายอะโรมาติกที่ใช้กันทั่วไปในการผลิตสารเคมีที่ทำพลาสติก ผ้า และยาง รวมถึงการโพลีเอสเตอร์สำหรับขวดและภาชนะพลาสติกแข็ง โดยพาราไซลีนซึ่งเป็นหนึ่งในสามไอโซเมอร์ของ xylene ก็มีส่วนสำคัญในการผลิต Polyethylene Terephthalate (พอลิเอทิลีน เทเรฟทาเลต) หรือ พลาสติก PET อีกด้วยส่วน Methyl Ethyl Ketone นั้น ทำหน้าที่เป็นตัวทำละลายเพื่อช่วยละลายพีวีซีเรซินโพลีเมอร์และสารเติมแต่งอื่นๆ อีกทั้งยังสามารถละลายพลาสติกได้หลายชนิด โดยกระบวนการสร้างพลาสติก PVC มีเมทิลเอทิลคีโตนเป็นส่วนสำคัญ นั่นเอง
- ใช้เป็นสารเติมแต่งเพื่อปรับปรุงคุณภาพของพลาสติก : ตัวกลางทางเคมีในการผลิตพลาสติก PVC, ไวนิล, เส้นใย Polyester, พลาสติไซเซอร์ (Plasticizer) และโพลีเอสเตอร์เรซิน นั้น Triethylene Glycol ถูกนำไปใช้เป็นสารเติมแต่งที่เติมลงในโพลีไวนิลคลอไรด์เรซิน เพื่อให้มีคุณสมบัติต่างๆ เช่น ความสามารถในการขึ้นรูป, ความยืดหยุ่น, ฉนวนไฟฟ้าและความเหนียว เพื่อนำไปผลิตสิ่งของต่างๆ
เมื่อพลาสติกกลายเป็นส่วนสำคัญในชีวิตประจำวันของมนุษย์ ตามเราได้กล่าวมาทั้งหมด ทำให้ความต้องการผลิตภัณฑ์พลาสติกเพิ่มขึ้น รวมไปถึงมีความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีในการผลิตพลาสติกเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แต่ในอุตสาหกรรมพลาสติกก็ยังคงต้องเผชิญกับความท้าทาย เช่น ความกังวลด้านสิ่งแวดล้อมที่เกี่ยวข้องกับขยะพลาสติก กฎระเบียบเกี่ยวกับการใช้พลาสติก และความผันผวนของราคาวัตถุดิบ ฯลฯ อีกทั้งอุตสาหกรรมการผลิตพลาสติกเป็นอุตสาหกรรมที่ซับซ้อน การเลือกใช้สารเคมีในการกระบวนการผลิตจึงมีความสำคัญ อย่าง Methyl Ethyl Ketone, Xylene และ Triethylene Glycol ที่ถือเป็นสารเคมีที่สำคัญสำหรับกระบวนการผลิตพลาสติกต่างๆ ผู้ประกอบการหรือเจ้าของอุตสาหกรรมการผลิตพลาสติกจึงจะต้องให้ความสำคัญกับคุณภาพของสารเคมีเหล่านี้
บริษัท พี.ไว จำกัด คือบริษัทผู้นำเข้าเคมีภัณฑ์มากมาย ที่ตอบโจทย์ทุกอุตสาหกรรมที่มีความหลากหลาย อาทิ อุตสาหกรรมสี, ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์, เหล็ก, ยาง, น้ำมันอุตสาหกรรม, สิ่งทอ, การพิมพ์, อาหาร, เครื่องดื่มและเครื่องสำอาง โดยเคมีภัณฑ์ต่างๆ เช่น Methyl Ethyl Ketone, Xylene และ Triethylene Glycol ที่เรานำเข้านั้นมีมาตรฐานจากผู้ผลิตที่มีชื่อเสียงจากทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ
คลิกดูรายละเอียดสินค้า
สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ บริษัท พี.ไว จำกัด
https://pwai.co.th/
ออฟฟิศ: 02-938-0515-6 / 02-513-8398 / 02-513-2639 / 02-512-2111
อีเมล: sales@pwai.co.th
Line@: @pwaishop
Leave a Reply