คุณสมบัติและประโยชน์ของ Acetone คืออะไร

 

คุณสมบัติและประโยชน์ของ Acetone คืออะไร

Acetone นำไปใช้ในงานอุตสาหกรรมอย่างแพร่หลายไม่ว่าจะเป็นอุตสาหกรรมยา, อุตสาหกรรมไฟเบอร์, อุตสาหกรรมสารเคมีชนิดต่างๆ และอุตสาหกรรมช่างต่างๆ

acetone

อะซิโตนหรือที่ใครหลายๆ คนเรียกอีกชื่อหนึ่งว่าอาซิโทน (Acetone) เป็นสารเคมีชนิดหนึ่งที่อยู่ในรูปแบบของเหลวและเป็นสารประกอบอินทรีย์ที่อยู่ในประเภทคีโตน ซึ่ง Acetone มักถูกนำมาใช้สำหรับการเป็นตัวทำละลายหรือใช้สำหรับการเป็นสารตั้งต้นในขั้นตอนของการเตรียมสารเคมีชนิดต่างๆ เพราะด้วยคุณสมบัติเด่นของ Acetone ที่เป็นของเหลวระเหยง่าย ไม่มีสี และละลายได้เป็นอย่างดีในสารประกอบชนิดอื่นๆ อาทิเช่น น้ำ อีเทอร์ หรือเอทานอล เป็นต้น ถึงแม้ Acetone จะมีคุณสมบัติที่เป็นจุดเด่นหลายอย่างแต่ Acetone ก็มีคุณสมบัติที่เป็นจุดด้อยเช่นกันเพราะ Acetone สามารถติดไฟได้ง่ายและที่สำคัญสามารถติดไฟได้เองหากได้รับความร้อนที่ 465 องศาเซลเซียส ดังนั้นเราควรจะเก็บ Acetone ไว้ให้ห่างจากความร้อนหรือห่างจากเปลวไฟเพื่อป้องกันอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นจากการลุกไหม้ของไฟได้และเพื่อเป็นการป้องกันอุบัติเหตุดังกล่าวเราควรหาพื้นที่ในการจัดเก็บรักษา Acetone อย่างถูกวิธีเราขอแนะนำให้เก็บ Acetone ไว้ในบริเวณที่มีอากาศเย็นและแห้ง, เก็บ Acetone ไว้ในภาชนะที่สามารถปิดได้อย่างมิดชิดและควรเก็บ Acetone ไว้ในบริเวณที่มีอากาศถ่ายเทได้อย่างสะดวก แห้ง และไม่ชื้น

คุณสมบัติและประโยชน์ของ Acetone

คุณสมบัติที่เด่นชัดของอะซิโตนหรืออาซิโทน (Acetone) คือของเหลวที่มีลักษณะระเหยได้ง่าย, ละลายในสารประกอบอื่นได้ดี, ไม่มีสี, ติดไฟได้ง่ายและยังเป็นตัวทำละลายที่มักถูกนิยมนำไปใช้ในน้ำยาล้างเล็บหรือที่เรียกว่า Acetone น้ำยาล้างเล็บ, น้ำยาล้างกาวหรือที่เรียกว่า Acetone น้ำยาล้างกาว และน้ำยาเช็ดล้างเครื่องมือช่างต่างๆ หรือที่เรียกว่า Acetone น้ำยาเช็ดล้างเครื่องมือช่าง อาทิเช่น น้ำยาล้างแปรงทาสี, น้ำยาล้างพู่กัน, น้ำยาล้างลูกกลิ้งทาสี หรือใช้เป็นน้ำยาล้างสีออกจากมือ เป็นต้น ด้วยคุณสมบัติของ Acetone ที่กล่าวมาส่งผลให้ Acetone ถูกนำไปใช้ในงานอุตสาหกรรมอย่างแพร่หลายไม่ว่าจะเป็นอุตสาหกรรมยา, อุตสาหกรรมไฟเบอร์, อุตสาหกรรมสารเคมีชนิดต่างๆ และอุตสาหกรรมช่างต่างๆ เป็นต้น

วันนี้เราจะขอพูดถึงประโยชน์ของ Acetone ที่ทำให้คนหันมานิยมใช้กันอย่างแพร่หลาย จะมีประโยชน์อย่างไรบ้างไปอ่านพร้อมๆ กันเลย

  • มีประโยชน์ในอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องต่างๆ จะนิยมใช้ Acetone เพื่อเป็นตัวทำละลายในขั้นตอนของกระบวนการผลิตในอุตสาหกรรมเพราะด้วยคุณสมบัติเด่นที่สามารถละลายในสารประกอบอื่นๆ ได้ดีส่งผลให้ Acetone เป็นที่ต้องการและเป็นประโยชน์ต่ออุตสาหกรรมเป็นอย่างมาก อาทิเช่น อุตสาหกรรมกาว, อุตสาหกรรมน้ำมันขัดเงา, อุตสาหกรรมเครื่องสำอาง, อุตสาหกรรมแลคเกอร์, อุตสาหกรรมสี, อุตสาหกรรมหมึกพิมพ์, อุตสาหกรรมยา หรืออุตสาหกรรมถุงพลาสติกหรือพลาสติกชนิดอื่นๆ เป็นต้น
  • อีกหนึ่งประโยชน์ของ Acetone คือการที่เป็นตัวทำละลายในขั้นตอนการเตรียมสารเคมี
  • Acetone ยังสามารถเป็นสารในการทำละลายหากเราต้องการสกัดสารอินทรีย์จากสัตว์หรือพืช Acetone จะช่วยทำละลายได้เป็นอย่างดี
  • เรื่องการล้างทำความสะอาด Acetone ถือว่าทำได้ดี เช่น การผสมสารในน้ำยาล้างเล็บ, การผสมสารในน้ำยาล้างกาว, การผสมสารในน้ำยาล้างสี หรือการผสมสารในน้ำยาล้างแปรงพู่กันช่าง เป็นต้น

สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

อันตรายจาก Acetone หากใช้อย่างไม่ระวัง

เราก็ได้ทราบถึงคุณสมบัติและประโยชน์ของ Acetone เป็นที่เรียบร้อยแล้ว อย่างที่เห็นได้ชัดว่า Acetone เป็นสารที่อยู่รอบตัวเราตลอดเวลาและเราก็เชื่อว่าหลายคนก็คงเคยมีประสบการณ์ที่ได้ใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของ Acetone กันมาบ้างแล้วและด้วยเหตุผลที่ว่า Acetone อยู่ในผลิตภัณฑ์ที่เราก็คิดว่าไม่ได้เป็นอันตรายร้ายแรงต่อร่างกายนัก เช่น น้ำยาล้างเล็บ, น้ำยาล้างกาว หรือน้ำยาล้างเครื่องมือช่าง เป็นต้น แต่ใครจะรู้ว่าหากเราใช้ Acetone อย่างผิดวิธีหรือขาดความระมัดระวังอาจส่งผลอันตรายต่อร่างกายได้ วันนี้เราเลยจะมาบอกเล่าอันตรายจาก Acetone หากใช้อย่างไม่ระวังเพื่อที่ผู้ใช้จะได้ทราบข้อมูลและใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนประกอบของ Acetone อย่างระมัดระวังมากขึ้น สามารถสอบถามรายละเอียดเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ Acetone จากผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านเพิ่มเติมได้ที่นี่

  1. อันตราย Acetone จากภายนอกร่างกาย
    • หาก Acetone ได้สัมผัสกับดวงตา : ในขณะที่เราใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนประกอบของ Acetone เราคงทราบกันดีอยู่แล้วว่าไม่ควรให้ผลิตภัณฑ์นั้นๆ สัมผัสดวงตาของเรา แต่ในบางครั้งความประมาทหรือความไม่ระวังอาจทำให้ Acetone สัมผัสดวงตาได้ ซึ่งจะส่งผลให้ดวงตาเกิดการระคายเคืองทันทีและมีความรุนแรงอย่างอาการตาแดงหรืออาการปวดตาอย่างหนัก เพราะฉะนั้นหากเราจำเป็นต้องใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนประกอบของ Acetone ก็ควรสวมใส่แว่นตาที่มีคุณสมบัติช่วยป้องกันสารเคมีอย่าง Acetone ได้• หาก Acetone ได้สัมผัสกับผิวหนัง : ความเข้มข้นของ Acetone ในผลิตภัณฑ์แต่ละประเภทย่อมมีความเข้มข้นที่แตกต่างกันออกไป หากผลิตภัณฑ์นั้นๆ มีความเข้มข้นที่เจือจางเมื่อเราไปสัมผัสก็อาจจะไม่ก่อให้เกิดความระคายเคืองต่อผิวหนังได้ แต่สำหรับบางผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนประกอบ Acetone ที่เข้มเข้มเมื่อเราได้สัมผัสผิวหนังอาจจะเกิดอาการผื่นแดงฉับพลันหรือมีอาการแสบร้อน ดังนั้นเมื่อเกิดอาการเหล่านี้ควรรีบล้างด้วยน้ำสะอาดทันทีหรือถ้าเกิดอาการรุนแรงมากกว่าที่กล่าวมาก็ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อรักษาทันที เมื่อรู้เช่นนี้แล้วหากจำเป็นต้องสัมผัสกับ Acetone ก็ควรหาวิธีป้องกันอย่างการสวมใส่ถุงมือและสวมใส่เสื้อผ้ามิดชิดเพื่อป้องกัน Acetone กระเด็นใส่ผิวหนัง
  2. อันตราย Acetone จากภายในร่างกาย
    • หากกิน Acetone ลงท้อง : แน่นอนว่าไม่ว่าผลิตภัณฑ์นั้นจะมีความเข้มข้นของ Acetone มากหรือน้อยเราก็ไม่ควรกลืนกินเข้าไปเพราะจะทำให้เกิดการระคายเคืองและอักเสบขึ้นในบริเวณอวัยวะระบบทางเดินอาหาร อาทิเช่น กระเพาะอาหารและลำไส้ จำเป็นต้องล้างท้องหรือขับ Acetone ออกจากร่างกายโดยเร็วที่สุด• เมื่อมีการสูดดมกลิ่น Acetone มากจนเกินไป : หากเราได้รับสาร Acetone จากการสูดดมกลิ่นมากเกินไปจะส่งผลเสียต่อระบบทางเดินหายใจโดยจะมีอาการ เช่น ปวดศีรษะ, ไอ, แน่นบริเวณหน้าอก หรือคลื่นไส้อาเจียน อาการเหล่านี้เป็นอาการที่บ่งบอกว่าเราได้รับกลิ่น Acetone มากจนเกินไปหรือนานเกินไป ดังนั้นถ้าเราไม่สามารถหลีกเลี่ยงที่จะไม่ดมกลิ่นของ Acetone เราก็ควรหาวิธีป้องกันอย่างการสวมใส่หน้ากากที่ออกแบบในการป้องกันกลิ่นของสารเคมีโดยเฉพาะหรือทำงานในบริเวณที่อากาศถ่ายเทได้สะดวก หากต้องการทราบข้อมูลรายละเอียดผลิตภัณฑ์ Acetone เพิ่มเติมสามารถสอบถามได้ที่นี่ฟรี

การเก็บรักษา Acetone อย่างถูกวิธี

อย่างที่กล่าวไปข้างต้น Acetone เป็นผลิตภัณฑ์ที่สามารถติดไฟได้ง่าย ดังนั้นพื้นที่ในการเก็บรักษาจึงเป็นเรื่องที่สำคัญเพราะถ้าหากเกิดการลุกไหม้อาจจะยากต่อการดับไฟ เพราะฉะนั้นเราจะมาบอกถึงวิธีการเก็บรักษา Acetone อย่างถูกวิธีเพื่อที่ทุกคนจะได้นำไปปรับใช้และเลือกพื้นที่ในการเก็บรักษา Acetone อย่างถูกวิธีและปลอดภัยที่สุด

  • ควรเก็บ Acetone ไว้ในพื้นที่ที่ห่างจากความร้อน เปลวไฟ หรือสารที่ก่อให้เกิดการลุกไหม้ได้ง่าย
  • ควรเก็บ Acetone ไว้ในภาชนะที่สามารถปิดได้อย่างมิดชิด เราขอแนะนำให้ภาชนะนั้นทำจากแก้วและที่สำคัญเก็บในที่ร่มอย่าให้โดนแสงแดด
  • ควรเก็บ Acetone ในพื้นที่บริเวณที่มีอากาศถ่ายเทได้อย่างสะดวกและไม่ชื้น
  • ควรเก็บ Acetone ในอุณหภูมิไม่เกิน 30 องศาเซลเซียส (Acetone สามารถติดไฟได้เองหากอยู่ในความร้อนที่มีอุณหภูมิ 465 องศาเซลเซียส)
  • ควรเก็บ Acetone ตามคำแนะนำของกฎหมายที่กรมโรงงานได้กำหนดขึ้นและที่เป็นมาตรฐานสากล
  • ไม่ควรเก็บ Acetone ในภาชนะที่ Acetone กัดกร่อนได้ง่าย อาทิเช่น ยาง, โลหะ, พลาสติก และใยสังเคราะห์ เป็นต้น

หากเราไม่รู้ถึงอันตรายของ Acetone เราก็จะละเลยในเรื่องของการเก็บรักษา แต่เมื่อเรารู้ถึงคุณสมบัติ ประโยชน์และอันตรายของ Acetone แล้วเราก็จะสามารถเลือกใช้ประโยชน์และหลีกเลี่ยงหรือป้องกันอันตรายที่อาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุได้ หากคุณอยากลองใช้ผลิตภัณฑ์ Acetone แต่ยังขาดรายละเอียดข้อมูลต่างๆ สามารถปรึกษาเราได้ พีไว จำกัด เรามีผู้เชี่ยวชาญคอยให้คำแนะนำและพร้อมเป็นที่ปรึกษาให้กับคุณ

เบอร์โทรติดต่อ
https://pwai.co.th/
ออฟฟิศ: 02-938-0515-6 / 02-513-8398 / 02-513-2639 / 02-512-2111
อีเมล: sales@pwai.co.th
Line@: @pwaishop