Isopropyl Alcohol แตกต่างจาก Ethyl Alcohol อย่างไร

รู้จัก Isopropyl Alcohol แตกต่างจาก Ethyl Alcohol อย่างไร

เลือกใช้ Isopropyl Alcohol และ Ethyl Alcohol อย่างถูกต้อง

ETHYL ALCOHOL

ในยุคที่โรค COVID-19 ยังคงระบาดหนักอย่างต่อเนื่องหลายระลอก รวมถึงการที่ต้องระมัดระวังตัวจากเชื้อโรคที่ก่อให้เกิดโรคภัยไข้เจ็บอื่น ๆ อีกมากมาย ทำให้ผู้คนหันมาดูแลสุขภาพด้วยการรักษาความสะอาดมากขึ้น ทำให้ แอลกอฮอล์ ทั้งแบบสเปรย์และเจลล้างมือ ก็กลายมาเป็นอีกหนึ่งอุปกรณ์จำเป็นที่ผู้คนจะต้องพกติดตัวไปไหนมาไหนด้วยเสมอ เพื่อทำความสะอาดและช่วยฆ่าเชื้อโรคทั้งแบคทีเรียและไวรัสให้อยู่หมัดในทุกพื้นผิวสัมผัส

แต่ด้วยชนิดของแอลกอฮอล์ที่มีให้ใช้งานอย่างหลากหลาย ทำให้ผู้ใช้และผู้บริโภคต้องมีการเลือกใช้อย่างระมัดระวัง เพราะถ้าใช้ผิดประเภท นอกจากจะกำจัดเชื้อโรคไม่ได้แล้ว ยังอาจก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพและร่างกายได้

ซึ่งแอลกอฮอล์ชนิดที่อยู่ใกล้ตัวและหาซื้อได้ทั่วไป ก็คือ Isopropyl Alcohol (ไอโซโพรพิลแอลกอฮอล์) และ Ethyl Alcohol (เอทิลแอลกอฮอล์) แม้จะเป็นแอลกอฮอล์เหมือนกัน แต่ก็มีคุณสมบัติที่แตกต่างกันหลายด้าน ไปทำความรู้จักทั้งประโยชน์และความแตกต่างในการใช้งานแอลกอฮอล์ทั้ง 2 ชนิด ตามที่ บริษัท พี. ไว จำกัด นำข้อมูลมาฝากในบทความนี้ได้เลย

แนะนำและทำความรู้จักประเภทของแอลกอฮอล์

ในเบื้องต้นแอลกอฮอล์นั้นสามารถแยกย่อยออกเป็นหลากหลายประเภทให้เลือกใช้ แต่หากแยกเป็นกลุ่มใหญ่ ๆ ตามชนิดที่ใช้งานแบบเข้าใจง่าย เราสามารถแบ่งแอลกอฮอล์ออกเป็นกลุ่ม คือ ชนิดที่กินได้และกินไม่ได้ ซึ่งแอลกอฮอล์ที่ใช้งานและหาซื้อได้ทั่วไปในปัจจุบันจะแบ่งออกเป็นกลุ่ม ดังนี้

  • แอลกอฮอล์ชนิดที่กินได้
    หรือก็คือ Ethyl Alcohol (เอทิลแอลกอฮอล์) หรือที่มีอีกชื่อเรียกว่า Ethanol (เอทานอล) แอลกอฮอล์ชนิดนี้เกิดจากการนำวัตถุดิบธรรมชาติจำพวกพืชชนิดต่างๆ เช่น ข้าว, ข้าวโพด, อ้อย, มันสําปะหลัง เป็นต้น นำมาหมักกับยีสต์จนได้มาเป็น Ethyl Alcohol ที่มีลักษณะใส ไม่มีสี ไม่มีกลิ่น และจุดติดไฟได้ง่าย รวมถึงความสามารถในการฆ่าเชื้อโรคต่างๆ และยังสามารถกิน สัมผัส หรือนำเข้าสู่ร่างกายได้อย่างปลอดภัย แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับระดับของปริมาณแอลกอฮอล์ที่ผสมอยู่ว่ามีมากหรือน้อยเพียงใดตัวอย่างเช่น Ethyl Alcohol ที่มีระดับแอลกอฮอล์ 99.9% หรือเป็นแอลกอฮอล์บริสุทธิ์ ที่มีคุณภาพและความปลอดภัยในระดับที่ดีที่สุด ถูกจัดว่าเป็นแอลกอฮอล์ Pharma Grade (ฟาร์มา เกรด) จึงถูกนำไปใช้ในทางการแพทย์ การผลิตยารักษาโรคต่าง ๆ และเนื่องจาก Ethyl Alcohol นั้นสามารถรับประทานได้ จึงมีแอลกอฮอล์ที่จัดอยู่ในระดับ Food Grade (ฟู้ด เกรด) จึงถูกนำไปใช้ในการประกอบเป็นอาหาร เครื่องสำอาง และเครื่องดื่ม ซึ่งที่เราคุ้นชินและพบเจอได้ทั่วไป อย่างเช่น การใช้ทำเหล้า เบียร์ วอดก้า สุราต่าง ๆ เป็นต้นนอกจากนี้ก็ยังมี Ethyl Alcohol ที่มีระดับแอลกอฮอล์ 95% จัดเป็นแอลกอฮอล์ Commercial Grade (คอมเมอร์เชียล เกรด) ชนิดที่ไม่สามารถรับประทานได้ แต่ก็ไม่ได้มีผลเสียต่อการสัมผัสกับผิวหนังของร่างกาย จึงนิยมนำมาใช้ในการทำสเปรย์ฉีดพ่นทำความสะอาดหรือเป็นส่วนประกอบของเครื่องสำอางบางชนิดได้
  • แอลกอฮอล์ชนิดที่กินไม่ได้
    สำหรับแอลกอฮอล์ในกลุ่มที่ไม่สามารถรับประทานได้นี้ มีทั้งชนิดที่สามารถนำมาใช้กับการฆ่าเชื้อโรคภายนอกร่างกายได้ และชนิดที่ไม่ควรนำมาสัมผัสกับร่างกาย อันประกอบไปด้วย

    • Isopropyl Alcohol (ไอโซโพรพิลแอลกอฮอล์ หรือ IPA) หากดูจากชื่อของแอลกอฮอล์ชนิดนี้ หลายท่านอาจรู้สึกว่าไม่คุ้นหูคุ้นตาสักเท่าไร แต่จริง ๆ แล้วแอลกอฮอล์ชนิดนี้เป็นสิ่งที่ถูกนำไปเป็นส่วนประกอบและใช้อยู่ใกล้ตัวเรา อย่างเช่น แอลกอฮอล์ล้างแผล ที่เป็นยาสามัญประจำบ้านและหาซื้อได้ตามร้านขายยาทั่วไปนั่นเอง โดย Isopropyl Alcohol มีลักษณะเด่นที่เรามักจะสังเกตเห็นแอลกอฮอล์ชนิดนี้ได้ง่าย ๆ ก็คือ เป็นแอลกอฮอล์ที่มีสีฟ้าสดใสเห็นเด่นชัด และมีกลิ่นค่อนข้างฉุน ช่วยให้ผู้ใช้สามารถแยกประเภทการใช้งานออกจาก Ethyl Alcohol ได้ และเป็นสัญลักษณ์เตือนแก่ผู้ใช้ให้เกิดความระมัดระวังมากขึ้นว่า สิ่งนี้เป็นยาใช้ภายนอก และห้ามรับประทานด้วยและแม้จะมีวัตถุประสงค์ในการผลิตและความสามารถในการกำจัดเชื้อโรคที่บาดแผลหรือส่วนต่าง ๆ ของร่างกายได้ แต่ Isopropyl Alcohol ก็ไม่ควรที่จะนำมาใช้เป็นส่วนผสมในการทำเจลหรือแอลกอฮอล์สําหรับล้างมือ เนื่องจากแอลกอฮอล์ชนิดนี้ไม่สามารถรับประทานได้เหมือน Ethyl Alcohol จึงอาจก่อให้เกิดอันตรายได้ หากมีการสัมผัสกับสิ่งต่างๆ แล้วปนเปื้อนเข้าสู่ปากและระบบทางเดินอาหาร จึงควรใช้ความระมัดระวังในการใช้งาน
    • Methyl Alcohol (เมทิลแอลกอฮอล์) หรือที่เรียกว่า Methanol (เมทานอล) เป็นแอลกอฮอล์ที่เกิดจากผลพลอยได้จากกระบวนการกลั่นปิโตรเคมีจำพวกถ่านหิน จึงเป็นแอลกอฮอล์ชนิดที่กินไม่ได้ และยังก่อให้เกิดความระคายเคืองกับผิวหนังได้ หากสัมผัสกับร่างกายหรือสูดดมเข้าไปเป็นปริมาณมากก็จะก่อให้เกิดอันตรายได้เช่นกัน มักจะนำมาใช้เป็นตัวทำละลายเคมีในงานอุตสาหกรรมต่าง ๆ เช่น การทำแลคเกอร์สำหรับเคลือบไม้ สีทาไม้ น้ำมันเคลือบ น้ำยาล้างเล็บ และเชื้อเพลิง เป็นต้น

สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

ความแตกต่างของ Isopropyl Alcohol และ Ethyl Alcohol ในการใช้งานด้านต่าง ๆ

  1. คุณสมบัติด้านการฆ่าเชื้อ
    เบื้องต้น Isopropyl Alcohol และ Ethyl Alcohol นั้นสามาถใช้ในการเชื้อโรคต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพทั้งคู่ แต่จะมีข้อแตกต่างคือ Isopropyl Alcohol มีความสามารถในทำลายเชื้อจุลินทรีย์ที่เป็นแบคทีเรียและไวรัสที่ไม่มีชั้นไขมันห่อหุ้มได้ดีกว่า ส่วน Ethyl Alcohol จะสามารถทำลายเชื้อไวรัสประเภทที่มีชั้นไขมันหุ้ม เช่น ไวรัสไข้หวัดใหญ่, HIV, เริม, วัณโรค รวมถึงไวรัส Covid-19 ได้แอลกอฮอล์ทั้งสองชนิดนี้ มีความสามารถและประสิทธิภาพในการทำลายเชื้อโรคได้ดีเมื่อมีความเข้มข้น 60-90% โดยปริมาตรในน้ำ (%v/v) ซึ่งปัจจุบันคนเน้นให้ความสำคัญกับเจลแอลกอฮอล์สำหรับล้างมือ เพื่อกำจัดและป้องกันเชื้อไวรัสโรค Covid-19 มากขึ้น ซึ่งปริมาณความเข้มข้นของแอลกอฮอล์ที่เป็นส่วนประกอบเพื่อสุขอนามัยและฆ่าเชื้อโรคนั้น กระทรวงสาธารณสุขได้ประกาศว่าควรมีความเข้มข้นของ Isopropyl Alcohol หรือ Ethyl Alcohol ในผลิตภัณฑ์ตั้งแต่หรือมากกว่า 70% โดยปริมาตรในน้ำ ซึ่งจะสามารถทำลายเยื่อหุ้มเซลล์ของเชื้อโรคให้แตกจนตัวเชื้อโรคเสื่อมสภาพนั้นเอง
  2. คุณสมบัติที่เหมาะสมด้านการใช้งาน
    ดังที่แจ้งไปข้างต้นเกี่ยวกับคุณสมบัติของ Isopropyl Alcohol ว่าเป็นแอลกอฮอล์ที่เหมาะสำหรับใช้ฆ่าเชื้อโรคภายนอกร่างกาย และไม่สามารถรับประทานได้ โดยส่วนใหญ่จึงเหมาะกับการนำมาใช้ทำความสะอาดข้าวของเครื่องใช้ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ และอื่นๆ รวมถึงหากใช้ในการทำความสะอาดบาดแผลหรือส่วนต่าง ๆ ของร่างกายก็ไม่ควรใช้ในปริมาณมาก เพราะจะมีผลทำให้ผิวแห้งและเกิดการระคายเคืองได้ส่วน Ethyl Alcohol นั้น สามารถใช้ในการฆ่าเชื้อบนผิวหนังและร่างกายได้อย่างปลอดภัย โดยควรมีระดับความเข้มข้นปริมาณที่เหมาะสมคือ 70 เปอร์เซ็นต์ขึ้นไป Ethyl Alcohol ยังสามารถใช้ในการทำความสะอาด ฆ่าเชื้อโรคให้กับอุปกรณ์ทางการแพทย์และอุปกรณ์อื่น ๆ ได้เช่นกัน
  3. ข้อควรระวังและอันตรายหากใช้เกินขนาด
    แม้ว่าแอลกอฮอล์ทั้ง 2 ประเภทจะมีคุณประโยชน์ แต่หากใช้ผิดวิธีก็อาจจะทำให้เกิดโทษต่อร่างกายและสภาพแวดล้อมได้ ในกรณีที่มีการใช้ Isopropyl Alcohol ปริมาณมากเกินไป อาจก่อให้เกิดความระคายเคืองและอันตรายต่อร่างกายของผู้ใช้ได้ เช่น หากสัมผัสกับผิวหนังมากเกินไปก็จะทำให้เกิดอาการผิวแห้ง คันระคายเคือง และเกิดเป็นผื่นภูมิแพ้ หากเข้าตาก็จะทำให้ระคายเคืองเยื่อบุตาไปจนถึงการเป็นแผลที่กระจกตา หรือหากสูดดมมากเกินไปก็จะก่อความระคายเคืองต่อเยื่อบุจมูกและคอ ในกรณีที่เข้าสู่ร่างกายเกิน 200 มิลลิลิตรก็อาจจะทำให้มีผลต่อระบบประสาทส่วนกลาง ระบบทางเดินหายใจ และทำให้ระบบไหลเวียนโลหิตล้มเหลว และเกิดภาวะช็อกหมดสติได้สำหรับ Ethyl Alcohol หากมีการสัมผัสมากเกินไปหรือผู้ที่แพ้ก็จะมีอาการระคายเคืองในส่วนต่าง ๆ ได้เช่นเดียวกับ Isopropyl Alcohol แต่จะมีอาการรุนแรงน้อยกว่า

นอกจากนี้ แอลกอฮอล์ทั้ง 2 ชนิดยังเป็นสารที่ไวต่อความร้อนและการติดไฟ จึงควรเก็บให้ห่างจากที่ที่มีความร้อนและเกิดประกายไฟ เพื่อความปลอดภัยของขีวิตและทรัพย์สินด้วย

และทั้งหมดนี้คือข้อแตกต่างระหว่าง Isopropyl Alcohol และ Ethyl Alcohol ที่สามารถสร้างประโยชน์ได้หากเลือกใช้อย่างถูกต้อง ถูกวิธี ซึ่งที่บริษัท พี. ไว จำกัด เราเป็นผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายสินค้าด้านเคมีภัณฑ์ทั้ง Isopropyl Alcohol (IPA) รวมถึงแอลกอฮอล์ชนิดอื่น ๆ และสารละลายอีกหลายประเภท สำหรับอุตสาหกรรมต่าง ๆ เช่น อุตสาหกรรมสิ่งทอ, ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์, สี, เหล็ก, ยาง, อาหารและเครื่องดื่ม ตลอดจนยา เวชภัณฑ์ เครื่องสำอาง ฯลฯ สนใจดูรายละเอียดเพิ่มเติม ขอใบเสนอราคา และสั่งซื้อสินค้าออนไลน์ผ่านหน้าเว็บไซต์ pwai.co.th และทุกช่องทางออนไลน์ของเรา

เบอร์โทรติดต่อ
https://pwai.co.th/
ออฟฟิศ: 02-938-0515-6 / 02-513-8398 / 02-513-2639 / 02-512-2111
อีเมล: sales@pwai.co.th
Line@: @pwaishop