ความนิยมของรถยนต์ไฟฟ้า EV กระทบต่อความต้องการของ Base oil และ Silicone oil หรือไม่อย่างไร?

ความนิยมของรถยนต์ไฟฟ้า EV กระทบต่อความต้องการของ Base oil และ Silicone oil หรือไม่อย่างไร?

ความนิยมของรถยนต์ไฟฟ้า EV กระทบต่อความต้องการของ Base oil และ Silicone oil หรือไม่อย่างไร?

Base oil และ Silicone oil เกี่ยวข้องกับเทรนด์รถยนต์ไฟฟ้า EV หรือไม่?

Base oil และ Silicone oil เกี่ยวข้องกับเทรนด์รถยนต์ไฟฟ้า EV หรือไม่?

จากข้อมูลของ ส.อ.ท. หรือสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย คาดตลาด EV ดีมานด์พุ่ง เพราะประเทศคู่ค้ายังมีคำสั่งซื้อต่อเนื่อง โดยในปี 2567 ตั้งเป้าผลิตรถยนต์ 1,900,000 คัน เพิ่มขึ้น 3.17% เป็นการผลิตเพื่อการส่งออก 1,150,000 คัน และผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศ 750,000 คัน (ที่มา : prachachat.net)

ถึงแม้ว่าแต่ต้นปี 2567 สภาพเศรษฐกิจโลกรวมถึงภายในประเทศไทยจะพบกับภาวะชะลอตัว แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่ารถยนต์ไฟฟ้า EV คือเทรนด์สำคัญที่จะขับเคลื่อนโลกในอนาคต เพราะนอกจากจะเป็นนวัตกรรมที่ใช้พลังงานหมุนเวียนเพื่อรักษาสิ่งแวดล้อมสูงขึ้นแล้ว ยังเป็นสิ่งที่ช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายของผู้บริโภคที่ต้องรับภาระของค่าน้ำมันเชื้อเพลิงที่ราคาสูงขึ้นเรื่อย ๆ ได้อีกด้วย… และเมื่อมีเทรนด์สำคัญที่จะลดการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงที่ใช้กับเครื่องยนต์เกิดขึ้น จะทำให้สารเคมีสำคัญที่เป็นส่วนประกอบสำคัญกับอุตสาหกรรมยานยนต์อย่าง Base oil และ Silicone oil หรือไม่? ในบทความนี้ pwai จะพาคุณไปหาคำตอบกัน!

เพราะอุตสาหกรรมยานยนต์เป็นหนึ่งในตลาดที่ใหญ่และมีอิทธิพลมากที่สุดในโลก เมื่อมีการปรับเปลี่ยนเทรนด์ที่พัฒนานวัตกรรมยานยนต์ไปสู่การรักษาสิ่งแวดล้อมที่รวดเร็ว ซึ่งส่งผลต่อ Supply Chain ทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับการผลิตยานยนต์ แนวโน้มที่สำคัญที่สุดในอุตสาหกรรมยานยนต์คือการเปลี่ยนแปลงทั่วโลกไปสู่รถยนต์ไฟฟ้า (EV) เช่น เคมีภัณฑ์ที่เป็นส่วนประกอบสำคัญกับอุตสาหกรรมยานยนต์อย่าง Base oil และ Silicone oil

สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

เทรนด์สำคัญที่น่าสนใจของเคมีภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมยานยนต์ในปี 2567

  • Lightweight Materials : การพัฒนาวัตถุดิบที่เบาแต่แข็งแรง เพื่อลดน้ำหนักของรถยนต์ เช่น โลหะที่มีน้ำหนักเบาและวัสดุคอมโพสิตที่แข็งแรงและเบามากขึ้น เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพพลังงานและลดการใช้เชื้อเพลิง
  • Smart Materials : การนำเข้าวัสดุที่สามารถปรับรูปร่างหรือคุณสมบัติได้ตามเงื่อนไขการใช้งาน เช่น วัสดุที่สามารถเปลี่ยนรูปร่างตามอุณหภูมิหรือแรงกดที่ได้รับ
  • Smart Technology : การนำเทคโนโลยีอัจฉริยะเข้ามาในรถยนต์ เช่น ระบบขับอัตโนมัติ, ระบบความปลอดภัยอัจฉริยะ และการเชื่อมต่อรถยนต์กับระบบอินเทอร์เน็ตมากขึ้น เป็นต้น
  • Electronic Technology and Electrical Drive : คือการพัฒนาระบบขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าและเทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์ที่ให้ประสิทธิภาพสูงขึ้น เพื่อลดการใช้เชื้อเพลิงและลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก รวมถึงการปรับปรุงเทคโนโลยีแบตเตอรี่ให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้นและมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน เพื่อสนับสนุนการใช้งานยานยนต์ไฟฟ้า

ความนิยมของรถยนต์ไฟฟ้า EV ส่งผลต่อ Base oil อย่างไร

“Bloomberg New Energy Finance คาดว่า EV จะคิดเป็น 10% ของยอดขายรถยนต์ใหม่ทั้งหมดภายในปี 2025 และ 58% ภายในปี 2040”
โดยการปรับเปลี่ยนยานพาหนะครั้งใหญ่ทั่วโลกคาดว่าจะเกิดขึ้นในช่วงปี 2030 (ที่มา : about.bnef.com)

จากปัจจัยเหล่านี้ทำให้เคมีภัณฑ์ที่เกี่ยวกับอุตสาหกรรมยานยนต์ในการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าจะเติบโตเพิ่มขึ้น โดยมูลค่าของตลาดเคมีภัณฑ์ที่เกี่ยวกับอุตสาหกรรมยานยนต์ที่ใช้น้ำมันเชื้อเพลิงที่ใช้ Base oil ที่เป็นน้ำมันพื้นฐานที่ใช้ในการผลิตน้ำมันหล่อลื่น รวมถึงน้ำมันเบนซินและดีเซล มีมากกว่า 4,000 ดอลลาร์ต่อคัน และเมื่อมีเทรนด์ของรถยนต์ไฟฟ้า EV ที่มีแนวโน้มว่าจะมีการใช้งานเพิ่มมากขึ้นในปัจจุบันและอนาคตอันใกล้นี้ ทำให้ปริมาณการใช้รถยนต์จากเครื่องยนต์สันดาปแบบดั้งเดิมลง

สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

ความนิยมของรถยนต์ไฟฟ้า EV ส่งผลต่อ Silicone oil อย่างไร

ในขณะที่ขนาดของตลาด Silicone oil ตั้งแต่ปี 2024-2031 มีแนวโน้มว่าจะเพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ โดยมีรายงานจากการวิจัยตลาดของเคมีภัณฑ์ชนิดนี้ล่าสุด คาดว่าในปี 2028 จะมีมูลค่าสูงถึง 1,793.2 ล้านเหรียญสหรัฐ และเอเชียแปซิฟิกยังเป็นตลาดที่เติบโตเร็วที่สุดในช่วงระยะเวลาคาดการณ์ โดยมีปัจจัยของการอุตสาหกรรมในวงกว้าง เศรษฐกิจที่กำลังเติบโต และจำนวนประชากรที่เพิ่มขึ้น และในภูมิภาคนี้คาดว่า ประเทศจีนจะเป็นผู้นำตลาดน้ำมันซิลิโคน โดยเติบโตที่ CAGR สูงสุด (ที่มา : silicone-oil-market-2024)

โดยตลาดของ Silicone oil แบ่งได้ 2 ประเภท คือ น้ำมันซิลิโคนเมทิลและน้ำมันซิลิโคนดัดแปลง ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในการผลิตของอุตสาหกรรมต่าง ๆ เช่น ผลิตภัณฑ์ดูแลส่วนบุคคลและการดูแลบ้าน, สิ่งทอ, พลังงาน, ยานยนต์และการขนส่ง รวมถึงเกษตรกรรม และมีบริษัทผู้จำหน่ายที่เป็นมีผู้เล่นหลัก ได้แก่

  • Dow Corning
  • Wacker Chemie
  • Shin-Etsu Chemical
  • Momentive Performance Materials
  • Elkem Silicones
  • ACC Silicones
  • M.R. Silicone
  • Lota Silicone Oil
  • KCC Basildon Chemical
  • Clearco Products

Silicone oil นั้นส่วนใหญ่จะถูกนำไปใช้ในฐานะน้ำมันหล่อลื่นและน้ำมันเทอร์มิกฟลูอิด รวมถึงการใช้งานเพื่อเป็นสารเคลือบผิวแผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์ เพราะเป็นเคมีภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม โดยอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าก็มีความต้องการใช้น้ำมันซิลิโคน เพื่อนำไปใช้ในการผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ เช่น ซีล ปะเก็น โอริงและน้ำมันหล่อลื่น เพราะมีคุณสมบัติที่ให้ความเสถียรทางความร้อนสูง, การหล่อลื่นที่ดีเยี่ยม กันน้ำ รวมถึงความต้านทานต่อสารเคมีและอุณหภูมิที่สูงมาก จึงช่วยเพิ่มความทนทานและสมรรถนะของชิ้นส่วนยานยนต์ อีกทั้งการยังเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพราะสามารถลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและย่อยสลายได้ทางชีวภาพ ทำให้มีความต้องการจากทั้งภาคธุรกิจอุตสาหกรรมและผู้บริโภคทั่วโลก ต่างก็ต้องการน้ำมันซิลิโคนมากขึ้น

ในมุมของ Base oil ที่แน่นอนว่าสำหรับอุตสาหกรรมยานยนต์ย่อมมีจะมีปริมาณความต้องการใช้งานน้อยลงอย่างแน่นอน เพราะในน้ำมันเครื่องสำเร็จรูปที่ใช้สำหรับเครื่องยนต์และยานยนต์จะมีน้ำมันพื้นฐานอยู่ถึง 70-80% ขณะที่ส่วนที่เหลือเป็นสารเพิ่มคุณภาพ (10%-20%) เพื่อช่วยในการหล่อลื่นของเครื่องยนต์ โดยเฉพาะเครื่องยนต์สันดาปภายในหรือ IC (Internal Combustion) ซึ่งเป็นเครื่องยนต์ที่มีความซับซ้อนมาก ทำงานด้วยความเร็วและอุณหภูมิที่สูงจึงจำเป็นต้องมีการหล่อลื่นที่ดี การเติมสารเพิ่มคุณภาพลงไปใน Base oil จะช่วยเพิ่มความหนืดและปกป้องเครื่องยนต์จากการสึกหรอ การเสียดสีและป้องกันการกัดกร่อนได้ดียิ่งขึ้น

จากคุณสมบัติที่ดีของน้ำมันพื้นฐานที่มีต่อเครื่องยนต์เครื่องจักร ดังที่เราได้กล่าวมา จึงสามารถนำไปใช้งานได้อย่างหลากหลาย เช่น น้ำมันเครื่องรถยนต์, น้ำมันอุตสาหกรรมที่ใช้สำหรับงานโลหะ, น้ำมันไฮดรอลิกและจาระบี ฯลฯ ซึ่งแม้จะได้รับผลกระทบจากเทรนด์ของผู้บริโภคที่หันมาใช้งานรถยนต์ไฟฟ้า EV กันมากขึ้น แต่ความต้องการใช้งานของ Base oil ในอุตสาหกรรมอื่น ๆ ก็ยังมีประมาณที่สูงมากขึ้นทุกปีอยู่ดี

จากการวิเคราะห์ตลาดและข้อมูลเชิงลึกของ Industry Insights Guru และ 2024-base-oil-market-landscape-future-trends-industry คาดว่าความต้องการของน้ำมันพื้นฐานในปี 2028 อยู่ที่ 36,580 ล้านเหรียญสหรัฐโดยมี CAGR ที่ 2.1% ซึ่งมีบริษัทยักษ์ใหญ่ที่อยู่ในอุตสาหกรรมนี้ได้แก่ Shell, Chevron, Neste Oil, Exxon Mobil, Total, Sinopec

และอย่างที่ทราบกันว่า Base oil สามารถแบ่งออกเป็น 5 กลุ่มใหญ่ คือ Group I, II, III, IV และ V โดยน้ำมันพื้นฐาน Group I ก็คือน้ำมันดิบ คาดว่าจะมีมูลค่าเป็นล้านดอลลาร์สหรัฐภายในปี 2028 และอีกกลุ่มของน้ำมันพื้นฐานก็คือ Group IV เป็นน้ำมันเครื่องสังเคราะห์ที่ผลิตจากโพลี อัลฟาโอเลฟิน ที่จะมีความต้องการเพิ่มขึ้นทั่วโลก จากอุตสาหกรรมและยานยนต์หลายประเภท เพราะมีความบริสุทธิ์มาก มีความหนืดคงที่และมีความต้านทานต่อการเกิดปฏิกิริยากับออกซิเจนสูง จึงช่วยป้องกันการเกิดออกซิเดชันของน้ำมันอย่างรวดเร็ว และสามารถยืดอายุการใช้งานของอุปกรณ์เชิงกลได้หลายเท่า

สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

แม้ว่าในปัจจุบัน เราจะตระหนักถึงการอุปโภคบริโภคแบบยั่งยืนมากขึ้นและทำลายสิ่งแวดล้อมน้อยลง แต่การขับเคลื่อนนวัตกรรมจากอุตสาหกรรมทั่วโลกก็ยังต้องพัฒนาและก้าวต่อไป โดยมีหัวใจที่ถือเป็นองค์ประกอบสำคัญของหลายอุตสาหกรรมก็คือ เคมีภัณฑ์ ไม่ว่าจะเป็น Base oil หรือ Silicone oil รวมถึงปิโตรเคมีต่าง ๆ ก็ยังเป็นสิ่งที่มีปริมาณและความต้องการที่เพิ่มมากขึ้นในทุก ๆ ปี

โดย บริษัท พี.ไว จำกัด เรายินดีที่จะอยู่เคียงข้างเหล่าอุตสาหกรรมต่าง ๆ ของประเทศไทย เพราะเราคือบริษัทผู้นำเข้าเคมีภัณฑ์มากมาย ที่ตอบโจทย์ทุกอุตสาหกรรมที่มีความหลากหลาย ทั้งอุตสาหกรรมสี, ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์, เหล็ก, ยาง, น้ำมันอุตสาหกรรม, สิ่งทอ, การพิมพ์, อาหาร, เครื่องดื่มและเครื่องสำอาง โดยเคมีภัณฑ์ที่เรานำเข้านั้น มีมาตรฐานจากผู้ผลิตที่มีชื่อเสียงจากทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ และหากคุณสนใจ Base oil หรือ Silicone oil และเคมีภัณฑ์อื่น ๆ สามารถคลิกดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่

คลิกดูรายละเอียดสินค้า Silicone Oil และ Base Oil

สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
https://pwai.co.th/
ออฟฟิศ: 02-938-0515-6 / 02-513-8398 / 02-513-2639 / 02-512-2111
อีเมล: sales@pwai.co.th
Line@: @pwaishop

 

Leave a Reply

Your email address will not be published.