N70 กับอุตสาหกรรมเครื่องสำอางและสกินแคร์

N70 สารเคมีที่สกัดจาก Fatty Alcohol ของมะพร้าว มีความปลอดภัยสูง จึงนิยมนำมาใช้เป็นสารในผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดต่างๆ

รู้หรือไม่? ว่าสารเคมีที่ทำให้เกิดฟองในผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดทั้งร่างกายและเสื้อผ้าหน้าผม หรือแม้กระทั่งผสมกับเครื่องสำอางบางชนิดได้อีกด้วยนั้น ก็คือ N70 หรืออีกชื่อที่เรียกกันในระบบ INCI ( ระบบการเรียกชื่อขี้ผึ้ง น้ำมันหรือสารเคมีที่เป็นส่วนประกอบในสบู่และเครื่องสำอาง โดย สมาคมผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพความงาม ) ว่า Sodium Lauryl Ether Sulfate หรือเรียกแบบย่อว่า SLES ซึ่งบางคนอาจจะสับสนชื่อกับ Sodium Lauryl Sulfate (SLS)

ซึ่งความจริงแล้ว SLS ก็คือสารตั้งต้นของ SLES โดยนำ SLS มาทำปฏิกิริยากับ Ethylene Oxide พร้อมกับแรงดันและความร้อน พร้อมกับตัวเร่งปฏิกิริยาที่เรียกว่า Catalyst จนได้เป็น Sulfate ที่ก่อให้เกิดการระคายเคืองกับมนุษย์ได้น้อยกว่า จึงนิยมนำ SLES หรือ N70 มาใช้กับผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดร่างกายของมนุษย์ อย่าง สบู่ ยาสีฟัน และแชมพู ส่วน SLS ก็มีคุณสมบัติที่ช่วยขจัดคราบไขมันได้ดีเยี่ยม อีกทั้งยังมีคุณสมบัติที่ลดแรงตึงผิว จึงสามารถแทรกซึมเข้าไปทำความสะอาดเนื้อผ้าได้ดี จึงนิยมนำมาใช้กับผลิตภัณฑ์น้ำยาซักผ้ามากกว่า

N70 ต่างจาก SLES หรือไม่?

ความจริงแล้วอย่างที่ได้กล่าวไปในข้างต้นว่าสารเคมีชนิดนี้ ก็คือ SLES หรือ Sodium Lauryl Ether Sulfate เพราะส่วนประกอบของสาร N70 ก็คือ SLES 70% และน้ำกับส่วนประกอบอื่นๆ เช่น Sodium Chloride และ Sodium Sulfate อีก 30% โดย Sodium Lauryl Ether Sulfate นั้นเป็นสารเคมีที่ได้จากธรรมชาติ โดยสกัดได้จากไขมันของพืช เช่น มะพร้าวหรือปาล์ม

ฉะนั้นการนำ N70 หรือ SLES มาใช้กับมนุษย์จึงมีความปลอดภัยสูงเพราะเป็นสารเคมีที่ได้จากแอลกอฮอล์ธรรมชาติ ( Fatty Alcohol) มีความอ่อนโยนและก่อให้เกิดการระคายเคืองได้น้อยกว่า SLS จึงนิยมนำมาเป็นส่วนประกอบของ สบู่หรือครีมอาบน้ำ,โฟมล้างหน้า, แชมพู หรือบางครั้ง ก็นำไปผสมกับเครื่องสำอาง, สกินแคร์บางประเภท หรือผลิตภัณฑ์ซักผ้า นั่นเอง

ซึ่ง SLES หรือ Sodium Lauryl Ether Sulfate เป็นเคมีภัณฑ์ที่ได้รับความนิยมในอุตสาหกรรมเครื่องสำอางแและสกินแคร์ต่างๆ มาอย่างยาวนานมากแล้ว เนื่องจากมีต้นทุนต่ำและที่สำคัญคือ มีคุณสมบัติเด่น 3 ประการที่เหมาะสำหรับอุตสาหกรรมเครื่องสำอางแและสกินแคร์ ของ N70 หรือ SLES คือ

• สามารถขจัดไขมันได้อย่างดีเยี่ยม จึงนิยมนำมาทำผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด
• ช่วยลดความตึงผิวได้เป็นอย่างดี จึงนิยมนำมาผสมในเครื่องสำอางและสกินแคร์ต่างๆ อีกทั้งการลดความตึงผิวได้ จะช่วยให้สารทำความสะอาดสามารถแทรกซึมเข้าไปทำความสะอาดเนื้อผ้าได้ จึงสามารถนำมาใช้ในผงซักฟอกหรือน้ำยาซักผ้าได้ดีอีกเช่นกัน
• มีฟองมาก จึงนิยมนำมาผสมในสบู่, ยาสีฟัน, แชมพู, หรือผงซักฟอกและน้ำยาล้างจาน

การใช้สารเคมี N70 หรือ SLES มีผลกระทบกับมนุษย์หรือไม่?

หลายปีที่ผ่านมามีกลุ่มอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมในต่างประเทศ ได้ออกมาต่อต้านการใช้งาน SLES เนื่องจากการกระบวนการ Ethylene Oxide มักจะเกิดการปนเปื้อนจนก่อให้เกิดสารก่อมะเร็งแก่มนุษย์ได้ แม้โดยวิธีการใช้งานเคมีภัณฑ์ชนิดนี้จะถูกควบคุมเรื่องปริมาณที่เหมาะสมสำหรับการใช้งานกับมนุษย์ให้อยู่ในตามเกณฑ์ที่กำนดแล้ว ก็ตาม แต่การสัมผัสหรือใช้งานกับ N70 หรือ SLES ประจำทุกๆ วัน ก็อาจจะส่งผลเสียได้อยู่ดี

นอกจากนั้นยังพบว่า Sodium Lauryl Ether Sulfate ที่มีคุณสมบัติสามารถขจัดไขมันและดึงน้ำมันจากพื้นผิวที่สัมผัสได้ดี จึงทำให้แชมพูหรือครีมอาบน้ำที่มีส่วนผสมของ N70 หรือ SLES ไปดึงไขมันส่วนที่จำเป็นของเส้นผมและผิวออกไปด้วย ซึ่งเป็นผลพวงทำให้เกิดการระคายเคืองได้นั่นเอง

แต่ถึงกระนั้นเอง ก็มีงานวิจัยมากมายจากนักวิทยาศาตร์ที่ออกมาโต้แย้งเรื่องความอันตรายของ SLES ที่มีส่วนเป็นสารที่ทำให้เกิดมะเร็งนั้นไม่เป็ความจริง! อีกทั้งหน่วยงานใหญ่อย่างองค์การอนามัยโลก และหน่วยงานสำคัญเพื่อวิจัยโรคมะเร็งของสหภาพยุโรป รวมถึงคณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญของ US Cosmetic Ingredient Review (CIR) ที่เป็นหน่วยงานประเมินและทบทวนความปลอดภัยของส่วนผสมในเครื่องสำอางของอเมริกาก็ออกมารับรองว่า N70 หรือ SLES แม้กระทั่ง SLE เองก็ตามสามารถนำไปใช้ในเครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดของคนได้อย่างปลอดภัย (ที่มาของรายงาน)
style=”font-size: 1.5rem; color: #009bee!important; margin-top: 30px;”N70 หรือ SLES ปลอดภัยต่อสิ่งแวดล้อมหรือไม่?

นอกจากหน่วยงานที่เกี่ยวกับสุขภาพและความปลอดภัยของมนุษย์ที่ออกมารับรองและยืนยันความปลอดภัยของ SLES และ SLE แล้ว หน่วยงานที่ประเมินความเสี่ยงของมนุษย์และสิ่งแวดล้อมอย่าง (HERA) ยังประเมินแล้วว่า N70 หรือ SLES และ SLE สามารถย่อยสลายได้อย่างรวดเร็วและสมบูรณ์แบบจึงไม่เป็นพิษภัยต่อสิ่งแวดล้อม (ที่มาของรายงาน) ดังนั้นในฐานะผู้บริโภคหรือฝากอุตสาหกรรมผู้ผลิตเครื่องสำอาง, สกินแคร์หรือผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดต่างๆ เองก็สามารถใช้และนำไปผลิตได้อย่างไร้กังวล

สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

N70 และ SLES สำหรับใช้ในอุตสาหกรรมเครื่องสำอางและสกินแคร์

อย่างที่เราได้กล่าวไปแล้วในข้างต้นว่า เคมีภัณฑ์ชนิดนี้มักจะนิยมนำมาใช้ในอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น สบู่, ยาสีฟัน, แชมพู หรือโฟมล้างหน้า รวมถึงน้ำยาบ้วนปาก ล้วนมีส่วนผสมของ N70 และ SLES ทั้งนั้น โดยมีการจำกัดปริมาณในการใช้สำหรับผลิตภัณฑ์ดูแลผิวคือ 0.01% ถึง 1% ขึ้นอยู่กับผู้ผลิต และสำหรับผู้ที่มีผิวที่แพ้ง่าย ก็ควรที่จะเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของเคมีภัณฑ์ชนิดนี้

N70 และ SLES ในอุตสาหกรรมเครื่องสำอางและสกินแคร์เองก็เช่นกัน โดยเราสามารถแบ่งประเภทของผลิตภัณฑ์และหน้าที่ของการทำงานสำหรับสารเคมีภัณฑ์ชนิดนี้ได้ ดังต่อไปนี้

• ผลิตภัณฑ์ประเภทครีมและโลชั่นบำรุง : N70 หรือ SLES ทำหน้าที่เป็นสารลดความตึงผิวในผลิตภัณฑ์กลุ่มนี้ นอกจากนั้นยัง ช่วยให้ผิวดูดซับสารอาหารและความชื้นจากผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่คุณใช้ในภายหลังได้ดีขึ้น เช่น ครีมทามือ, ทาตัว, มาสก์หน้า ครีมกำจัดขน และครีมกันแดด ฯลฯ
• ผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผม : เช่น น้ำ ยาย้อมผม, ทรีทเม้นท์และเจลแต่งผม
• ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง : เช่น รองพื้น, ลิปบาล์ม, สครับขัดผิว และน้ำยาล้างเครื่องสำอาง เพราะช่วยสลายเครื่องสำอางที่ตกค้างบนใบหน้าของคุณและช่วยให้ล้างออกได้ง่ายขึ้น
• ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดร่างกายและใบหน้า : N70 หรือ SLES ทำให้เกิดฟองที่ช่วยดึงสิ่งสกปรกและน้ำมันต่างๆ บนใบหน้าและลำตัวออกได้เป็นอย่างดี จึงทำความสะอาดผิวของคุณได้อย่างล้ำลึกและช่วยให้ซึมผ่านได้มากขึ้นด้วยนั่นเอง

 

วิธีการที่ดีที่สุดในการใช้ผลิตภัณฑ์มี N70 และ SLES

✔ ระวังอย่างให้ผิวแห้งจนเกินไป ขณะที่ใช้ครีมหรือโลชั่นที่มีส่วนผสมของ SLES เพราะคุณสมบัติของมันคือลดแรงตึงผิว และขจัดคราบไขมันจากผิวมากจนเกิดไป จึงมีโอกาสเกิดการระคายเคืองได้ สำหรับผลิตภัณฑ์ที่เป็นเจลหรือสบู่เหลวอาบน้ำ ให้เจือจางน้ำเล็กน้อยก่อนสัมผัสกับผิวกาย

✔ ล้างออกให้สะอาดทุกครั้ง ไม่ว่าผลิตภัณฑ์ใดที่สาร N70 และ SLES ทำให้เกิดฟอง เมื่อใช้แล้วจะต้องล้างฟองออกให้สะอาดหมดจด

✔ทำให้ผิวของคุณชุ่มชื่นทุกครั้งหลังใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีสาร N70 และ SLES เพราะคุณสมบัติที่ช่วยขจัดคราบไขมันบนเรือนร่างได้ดี ฉะนั้นหลังใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่มีสารเคมีชนิดนี้ผสมอยู่ จึงมีแนวโน้มว่าผิวของคุณจะแห้งหลังอาบน้ำ ฉะนั้นการทำโลชั่นบำรุงผิวให้ทั่วร่างกายเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ผิว จึงช่วยลดการระคายเคืองผิวได้นั่นเอง

นอกจากนั้น N70 และ SLES ยังใช้เป็นวัตถุเจือปนอาหาร เพื่อเพิ่มความข้นให้กับอาหาร เช่น มาร์ชเมลโลว์และเครื่องดื่มแห้งบางชนิด และนำไปใช้การพิมพ์และการย้อมสีในอุตสาหกรรมสิ่งทอ โดยนำไปเป็นสารหล่อลื่นของสารย้อมสีละสารขจัดคราบไขมันในเครื่องหนังต่างๆ ได้อีกด้วย

และหากคุณกำลังมองหา วัตถุดิบเคมีภัณฑ์ที่มีความหลากหลาย รวมถึง N70 และ SLES ด้วย สำหรับอุตสาหกรรมของคุณ ไม่ว่าจะเป็น อุตสาหกรรมเครื่องสำอาง, สกินแคร์, อุตสาหกรรมสิ่งทอ, การพิมพ์, อาหารและเครื่องดื่ม คลิกดูรายละเอียดเคมีภัณฑ์อื่นๆ เพิ่มเติม โดยคัดสรรเฉพาะสินค้าที่มีคุณภาพและได้มาตราฐานจากผู้ผลิตที่มีชื่อเสียงจากทั้งภายในประเทศและต่างประเทศเท่านั้น เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าทุกราย

สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
https://pwai.co.th/
ออฟฟิศ: 02-938-0515-6 / 02-513-8398 / 02-513-2639 / 02-512-2111
อีเมล: sales@pwai.co.th
Line@: @pwaishop